ด้วยได้รับเรื่องร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมพวง กรณี นายวิน เจิมกระโทก อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 12 ตำบลชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา มีความประสงค์ขอให้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมพวง ช่วยเหลือเรื่องที่ได้รับความเดือดร้อน โดยผู้ร้องอ้างว่า กลุ่มเผาถ่านบ้านพันธ์เจริญได้มีการเผาถ่านใกล้บริเวณหมู่บ้านและเกิดมลพิษจากควันที่เกิดจากกากรเผาถ่าน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง ดำเนินการแก้ไขปัญหาและรายงานให้อำเภอชุมพวงทราบต่อไป
องค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง จึงได้มีคำสั่งที่ 67 /2565 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี นายวิน เจิมกระโทก ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มเผาถ่านบ้านพันธ์เจริญ ตามความในมาตรา 25 (4) แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560
ข้อเท็จจริง
คณะกรรมการได้ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว สรุปได้ดังนี้
- คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมด้วยเจ้าพนักงานสาธารณสุขได้ดำเนินการออก
ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการร้องเรียน บริเวณบ้านพันธ์เจริญ หมู่ที่ 12 ตำบลชุมพวง ในระหว่างวันที่ 21 - 22 มิถุนายน 2565 ผลปรากฏว่าพบเตาเผาถ่านเก่า จำนวน 14 เตา และพบเตาเผาถ่านใหม่ จำนวน 25 เตา ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ห่างจากบ้านของ นายวิน เจิมกระโทก ผู้ร้องฯ ประมาณ 270 เมตร และห่างจากชุมชนบ้าพันธ์เจริญ ประมาณ 650 เมตร ซึ่งในกรณีนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเจ้าพนักงานสาธารณสุข เห็นว่าการเผาถ่านอาจเป็นเหตุให้เสื่อมหรือาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในชุมชน โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากฝุ่นละออง และเป็นเหตุรำคาญตามพระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งมาตรา 25 กำหนดโดยมีสาระสำคัญว่า ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงหรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้นดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเหตุรำคาญ... (4) การกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสีเสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่าเถ้า หรือกรณีอื่นใดจนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตรวจสอบแล้วเป็นเหตุรำคาญจริง
- นายวิน เจิมกระโทก พร้อมพวก ได้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 เวลา 14.30 น. ว่า ได้ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมพวง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากควันถ่านที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจและทางด้านสุขภาพ มาเป็นเวลานาน จึงอยากให้ทางราชการช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
- คณะกรรมการได้ทำการสอบสวนกลุ่มเผาถ่านบ้านพันธ์เจริญ ที่ทำการเผาถ่านบริเวณ
ดังกล่าวได้ให้ถ้อยคำว่า กลุ่มเผาถ่านเป็นชาวบ้านพันธ์เจริญ หมู่ที่ 12 ทำอาชีพเผาถ่านเป็นอาชีพหลัก และได้ลงทุนสร้างเตาเผา และซื้อตอไม้ยูคามาเตรียมไว้เพื่อเผาถ่านแล้วเป็นจำนวนมาก หากทางราชการให้หยุดทำการเผาถ่านในตอนนี้จะทำให้เกิดหนี้สินและไม่มีรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัว จึงอยากขอให้ทางราชการผ่อนผันให้สามารถเผาถ่านได้จนกว่าตอไม้ที่ซื้อมาเพื่อทำการเผาถ่านที่อยู่ในพื้นที่ตอนนี้จะหมดไป
- เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวองค์การ
บริหารส่วนตำบลชุมพวง จึงได้มีหนังสือ ที่ นม 75401/ว 157 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ถึงกลุ่มเผาถ่าน ผู้ร้องเรียน/ร้องทุกข์ กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเผาถ่าน ผู้นำชุมชน กำนันตำบลชุมพวง และฝ่ายปกครองอำเภอชุมพวง เพื่อร่วมประชุมหาแนวทางไกล่เกลี่ยเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยยึดระเบียบและกฎหมายเป็นหลัก
- องค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวงได้กำหนดให้มีการประชุม ในวันที่ 22 มิถุนายน 2565
เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง ชั้น 2 เพื่อไกล่เกลี่ยและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์ กรณี นายวิน เจิมกระโทก ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มเผาถ่าน บ้านพันธ์เจริญ โดยมี คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนดังกล่าว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชุมพวง ผู้แทนอำเภอชุมพวง กำนันตำบลชุมพวง ผู้ใหญ่บ้านพันธ์เจริญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพันธ์เจริญ ประธาน อสม.บ้านพันธ์เจริญ ผู้แทนประชาคมหมู่บ้านพันธ์เจริญ กลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนจากควันที่เกิดจากการเผาถ่าน และกลุ่มเผาถ่านบ้านพันธ์เจริญ จำนวนผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 45 คน ดำเนินการประชุมโดยวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ส่วนราชการเป็นคนกลางในการทำหน้าที่ช่วยเหลือเสนอแนะแนวทางและหาทางออกที่คู่พิพาทน่าจะยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย ได้ข้อสรุปร่วมกันว่ากลุ่มเผาถ่านบ้านพันธ์เจริญจะหยุดทำการเผาถ่านในพื้นที่พิพาท ภายในวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 หากปรากฏว่ามิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือฝ่าฝืน โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 74 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ จำนวน 45 คน เห็นชอบตามแนวทางดังกล่าว ไม่เห็นด้วย 0 คน งดออกเสียง จำนวน 0 คน รายละเอียดปรากฏตามรายงานการประชุมไกล่เกลี่ยเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565
|